Forest Bathing : ภายใต้ความสมดุลของกาย ใจ และจิตวิญญาณ

แก่นแท้ที่เป็นหัวใจสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดี ก็คือแนวคิดเรื่อง “ความสมดุล”   ซึ่งเป็นการสร้างความกลมกลืนระหว่างร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ

 

 

ตัวอย่างหนึ่งของการส่งเสริมสุขภาพในแง่มุมนี้ ก็คือการเดินทาง การท่องเที่ยว การดูแลสุขภาพ การพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ รวมไปถึงการรักษาและการบำบัดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดด้วยน้ำ การบำบัดด้วยกลิ่นหอม และการทำสมาธิ ตลอดจนการเข้าไปสัมผัสธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง สามารถช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีด้านสุขภาพกายและใจ หมายรวมถึงการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพด้วย

 

หนึ่งในแนวทางสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดี คือ การเชื่อมโยงกับการปฏิบัติต่าง ๆ เช่น การอาบป่า การฝึกสติ การทำสมาธิ การพักผ่อน และการปลดปล่อย การอาบป่า “Forest Bathing” หรือที่เรียกว่า “Shinrin-Yoku” ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นแนวทางการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ โดยการอาบป่า มีความหมายมากกว่าแค่การเดินเล่นในป่า แต่มุ่งเน้นให้ผู้คนสัมผัสธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ใช้ประสาทสัมผัสทุกส่วน เช่น การมองเห็น เสียง และกลิ่น มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการใช้เวลาในธรรมชาติช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด และช่วยปรับปรุงอารมณ์ได้อย่างมากอีกด้วย

 

Forest bathing

 

การเชื่อมโยงกับธรรมชาติสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการสังเกตสิ่งรอบตัว เช่น เสียงใบไม้พัด เสียงต้นสนไหว หรือเสียงนกร้อง การเดินอย่างมีสติ การเดินช้า ๆ และหายใจลึก ๆ สิ่งเหล่านี้ สามารถช่วยส่งเสริมความมีสติ และการตระหนักรู้ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาที่หลากหลายระบุว่า การอาบป่าช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

 

ในทิศทางเดียวกัน การฝึกสติเป็นองค์ประกอบสำคัญของการดูแลสุขภาพจิต ซึ่งช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบันโดยไม่ตัดสินหรือวิจารณ์ตนเอง การฝึกสติสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการโฟกัสที่การหายใจ ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถทำได้ทุกที่และช่วยให้จิตใจและร่างกายสงบลง ตลอดจนการทำสมาธิก็เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการฝึกสติ ไม่ว่าจะเป็นสมาธิแบบมีผู้แนะนำหรือทำด้วยตนเอง สมาธิช่วยให้เราตระหนักรู้ถึงความคิดและอารมณ์ของตนเอง และช่วยสร้างความสงบในจิตใจ

 

ในแง่ของการดูแลสุขภาพ การพักผ่อนที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหมายถึงการตัดขาดจากชีวิตประจำวันและหันมาดูแลตนเอง การพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการหลีกหนีในช่วงสุดสัปดาห์หรือการพักผ่อนตลอดทั้งสัปดาห์ สามารถมีผลเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ การตัดขาดจากเทคโนโลยีและกลับมาเชื่อมต่อกับตนเองและธรรมชาติช่วยลดความเครียดและเสริมสร้างความมีสติ ซึ่งสามารถเห็นได้จากการทำโยคะหรือการเดินป่า

 

forest bathing

 

Refocus ถือเป็นแนวทางสำคัญในการดูแลร่างกายและจิตใจ การมุ่งเน้นเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างชีวิตที่มีความหมายและมีคุณค่า การโฟกัสไปยังสิ่งที่สำคัญจริง ๆ จะทำให้เราสามารถเข้าถึงเป้าหมายและความฝันของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเทคนิคที่ช่วยได้คือการตั้งเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายส่วนบุคคลหรือในงาน การเขียนเป้าหมายลงในกระดาษและสร้างแผนการปฏิบัติช่วยให้เราเห็นภาพรวมและลำดับความสำคัญ นอกจากนี้ การบันทึกความคิดและความรู้สึกยังช่วยให้เรารู้ว่าเราควรโฟกัสกับอะไร และระบุปัจจัยที่อาจทำให้เราสูญเสียสมาธิในแต่ละวัน

 

refocus

 

ในทางตรงกันข้าม Release หรือการปลดปล่อยสามารถเป็นกระบวนการสำคัญในการจัดการกับอารมณ์เชิงลบ ความเครียด และประสบการณ์ที่ไม่เป็นประโยชน์จากอดีต การปล่อยอารมณ์ที่เก็บไว้ออกไปเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี การให้อภัยตัวเองและผู้อื่นเป็นกุญแจสำคัญ ไม่ควรปล่อยให้ความโกรธหรือความผิดหวังครอบงำจิตใจและร่างกาย การเขียนจดหมายเพื่อระบายความรู้สึก แม้ว่าจะไม่ได้ส่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถเป็นการระบายอารมณ์ได้ การมุ่งเน้นและการปลดปล่อยเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง เมื่อเราสามารถพัฒนาทั้งสองด้านในชีวิต เราจะสามารถก้าวไปสู่การมีชีวิตที่มีความสุขและมีสุขภาพดีอย่างแท้จริง

 

Love and Share….Beauty Town

อ้างอิง : https://www.globalhealthcareaccreditation.com