ยุค 2022 มาแรง!  ติดตามการท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBTQ+

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้มีสาระสำคัญดีดีมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ อีกแล้วนะคะ

หลังจากสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลายลง แนวโน้มการเดินทางของกลุ่ม LGBTQ เป็นหนึ่งในภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกก็ว่าได้ จากการรายงานของ U.S.Travel Association คาดการณ์ว่านักเดินทาง LGBTQ  จะเป็น  กลุ่มตลาดหลักแนวโน้มที่สำคัญที่สุด ที่มุ่งเน้นการใช้จ่ายในการเฉลิมฉลอง เพื่อความภาคภูมิใจ เพื่อการพักผ่อนส่วนตัวกับคู่รักเพศเดียวกัน ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก และความสนใจในการเดินทางของกลุ่ม LGBTQ ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

เทรนด์การท่องเที่ยว LGBT ประเทศไทย

LGBTQ+ ย่อมาจาก

  • L ย่อมาจาก Lesbian กลุ่มผู้หญิงรักผู้หญิง
  • G ย่อมาจาก Gay กลุ่มชายรักชาย
  • B ย่อมาจาก Bisexual หรือกลุ่มที่รักได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
  • T ย่อมาจาก Transgender คือกลุ่มคนข้ามเพศ จากเพศชายเป็นเพศหญิง หรือเพศหญิงเป็นเพศชาย
  • Q ย่อมาจาก คือ กลุ่มคนที่พึงพอใจต่อเพศใดเพศหนึ่ง โดยไม่ได้จำกัดในเรื่องเพศ และความรัก
  • +  หมายถึง อัตลักษณ์ทางเพศแบบอื่นๆ

กลุ่ม LGBTQ+ ท่องเที่ยวแบบไหน

การเดินทางของกลุ่ม LGBTQ+ เป็นหนึ่งในภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จากการรายงานวิจัยด้านการตลาด Forrester ระบุว่า ตลาด LGBTQ+ มีมูลค่า 6 พันล้านปอนด์ในสหราชอาณาจักร และ 85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (USD)ในสหรัฐอเมริกา รายได้สองทาง ไม่มีลูก นักเดินทาง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีรายได้สูง และใช้จ่ายในวันหยุดกับคู่รักต่างเพศ โดยผลการศึกษาพบว่า ชาวยุโรปที่เป็นกลุ่มเกย์ใช้จ่ายประมาณ 50 พันล้านยูโร ในการเดินทางในแต่ละปี แนวโน้มอันดับต้นๆ สำหรับการเดินทาง LGBTQ+ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัย การไม่แบ่งแยก จุดหมายปลายทางเป็นพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์ หรือการไปในชุมชนที่ต้อนรับด้วยใจ เนื่องจากความรู้สึกปลอดภัย สะดวกสบายขณะเดินทาง และยอมรับในสิ่งที่พวกเขาเป็น ทำให้พวกเขามีความสุขต่อการเดินทาง สามารถค้นหาข้อมูลจาก Search engine ด้วยตนเอง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทาง เพื่อค้นหาจุดยืนเกี่ยวกับสิทธิของ LGBTQ +ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการท่องเที่ยว คุณค่า ความปลอดภัย การเดินทางที่เข้าใจความต้องการ และมุ่งสู่ความฝัน ตลอดจน การแสวงหาประสบการณ์การเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์และส่วนตัว

Lgbt travel in Thailand

พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ+

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนถึงยุคปัจจุบัน ผู้คนเริ่มยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันมากขึ้น แนวโน้มพฤติกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBTQ+ เริ่มขยายตัวสูงขึ้น จากสถิติโลกตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า 17% ของเกย์และ 16% ของผู้หญิงเลสเบี้ยนแต่งงานแล้ว การจองฮันนีมูนของ LGBTQ+ เพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างต่อเนื่องจนถึงปีปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จาก ศาลทั่วโลก กำลังผ่านการตัดสินที่สำคัญเพื่อให้ผู้ที่ระบุว่าเป็นเกย์และเลสเบี้ยนมีสิทธิที่จะแต่งงาน การแต่งงานของคนเพศเดียวกัน และทริปฮันนีมูนของ LGBTQ+ จึงมีเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแนวโน้มการเติบโตทางการตลาดท่องเที่ยวโลก ของกลุ่มตลาด LGBTQ+ ที่มีการขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ว่าได้

เมื่อพิจารณาถึงประเทศไทยแล้ว จากการได้เป็นประเทศศูนย์กลางทางการแพทย์สำหรับกลุ่ม LGBTQ ในภูมิประเทศแถบเอเชีย มีกลุ่มประเทศต่างๆ  คือ ประเทศไทย 4 ล้านคน จีน 75 ล้านคน และอินเดีย 70 ล้านคน และยังไม่รวมถึงชุมชนชาวต่างชาติในกลุ่ม LGBTQ ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศจากรัสเซีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดตัว Borderless Healthcare Group ที่ภูเก็ต ในรูปแบบแพลตฟอร์มว่า Borderless.lgbt ทำให้ตลาดการท่องเที่ยวของกลุ่มนี้ขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในทิศทางเดียวกัน กลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ มีอัตราการใช้ค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย สูงถึง 1.15 % ของ GDP นับว่าเป็นตลาดใหญ่ต่อการสร้างเศรษฐกิจใหม่ๆ  ในด้านการแพทย์ ด้านที่พักอาศัย อุตสาหกรรมการบริการต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ การใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุของกลุ่ม LGBTQ ที่พัก โรงแรม รีสอร์ทสำหรับกลุ่ม LGBTQ รวมถึงนวัตกรรมความงามต่างๆ เพื่อเสริมรากฐานให้กับกลุ่ม LGBT ที่มีอยู่ในประเทศไทยอีกด้วย เช่น การย้ายถิ่นฐานมาทำธุรกิจที่ประเทศไทย เป็นต้น

Wellness Tourism LGBT

มากกว่านั้น จากการที่ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์สำหรับกลุ่ม LGBTQ ในภูมิประเทศแถบเอเชีย ทำให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ข้ามพรมแดน กับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระดับนานาชาติอื่นๆ ที่มีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยความสามารถในการใช้ระบบคลาวด์ ในการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และไร้พรมแดน ถือได้ว่า ประเทศไทยเป็นแนวหน้าแห่งนวัตกรรมทางการแพทย์ของไทยในระดับสากลก็ว่าได้ ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับต่างประเทศ ในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ขยายการลงทุนด้านที่พักแรมรูปแบบต่างๆ สปา รีสอร์ทสุขภาพ เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ผ่านระบบคลาวด์สำหรับกลุ่ม LGBTQ ได้อย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวสู่ประเทศไทยสูงขึ้นตามมาอีกด้วย

เป็นยังไงล่ะคะ เชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ กันได้บ้างนะคะ เราจะผ่าน และพร้อมสำเร็จไปด้วยกัน Love and Share….Beauty Town

อ้างอิง

https://www.lgbtqiahealtheducation.org

https://www.springnews.co.th