5 เรื่องเด่น ประเด็นการนวดแผนไทยที่ควรรู้

เพื่อนๆ พอทราบกันไม๊คะว่า การนวดแผนไทยของประเทศเรามีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก เนื่องจากคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม ขององค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้  “การนวดไทย” ขึ้นบัญชีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ถือเป็นการยกระดับการนวดไทยสู่สากลอย่างมีคุณค่าที่สุด

วันนี้ทีม Beauty Town มาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับเรื่องการนวดแผนไทย ดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

ความสำคัญการนวดแผนไทย

การนวดแผนไทย เป็นวิธีการรักษาความเจ็บป่วยแบบดั้งเดิมของไทย การนวดไทยเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่กับของคนไทยมาสมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า การนวดแผนไทยนั้น เป็นภูมิปัญญาและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ถือเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย

ประเภทการนวดแผนไทย

  • การนวดแบบราชสำนัก

การนวดแบบนี้จะเรียกว่า เป็นการนวดเพื่อถวายกษัตริย์ และเจ้านายชั้นสูงของราชสำนัก ผู้นวดจะต้องเดินเข่าเข้าหาผู้ที่มารับบริการนวด นอนบนพื้น อยู่ห่างผู้ที่มารับบริการนวด ราว 2 ศอก การนวดต้องสุภาพมาก ใช้อวัยวะได้น้อย และต้องตรงตามจุด มีเอกลักษณ์เฉพาะ มุ่งเน้นการใช้นิ้วมือเป็นหลักในรูปแบบการนวดประเภทนี้

  • การนวดแบบเชลยศักดิ์

การนวดแบบนี้จะเรียกว่า เป็นการนวดแบบทั่วไปก็ได้ เพราะกลุ่มเป้าหมาย คือ ชาวบ้านทั่วๆ ไป ไม่ได้มียศศักดิ์แนวทางการนวดจึงค่อนข้างจะเป็นกันเอง สามารถใช้ทั้งมือ เท้า ศอก เข่า ได้ตามสบาย มีทั้งการดัด การดึง การลูบ ใช้เทคนิคต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน

ลักษณะการนวดแผนไทย

  • การกด มักจะใช้นิ้วมือเป็นตัวส่งผ่านแรง จะใช้เพียงนิ้วเดียวหรือหลายนิ้วก็ได้ ใช้นิ้วหัวแม่มือเป็นตัวหลัก
  • การคลึง คือการหมุนวนเป็นวงกลม ไม่เพียงแค่กดเฉยๆ ยังมีการเคลื่อนที่ไปรอบๆ บริเวณนั้นด้วย จะใช้กับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ต้องการออกแรงมาก อาจใช้นิ้วมือ ฝ่ามือหรือส้นมือในการคลึงก็ได้
  • การบีบ วิธีนี้จะใช้กันอยู่ทั่วๆ ไป เป็นการใช้แรงกระทำต่อกล้ามเนื้อโดยตรง ต้องการให้กล้ามเนื้อทั้งมัดนั้นมีการผ่อนคลาย
  • การบิด คือการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อให้ไปในแนวขวาง เป็นการยืดกล้ามเนื้อเส้นเอ็นและข้อต่างๆโดยการจับกล้ามเนื้อให้เต็มฝ่ามือ แล้วบิดหมุนเป็นลูกคลื่นไปตามกล้ามเนื้อ
  • การดัด มักจะใช้กับข้อต่อที่มีการติดแข็ง หรือมีอาการขัดในข้อ ต้องใช้ความชำนาญสูง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ง่าย
  • การดึง เป็นการหยิบกล้ามเนื้อยืดออก มักใช้กับรายที่มีการหดรั้งของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ ต้องใช้ความชำนาญสูง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ง่าย
  • การทุบ การเคาะ และการสับ เป็นการออกแรงอย่างเป็นจังหวะ ใช้กำปั้นหลวมๆ ใช้สันมือ หรือใช้ฝ่ามือเคาะสับลงไปตรงบริเวณที่ต้องการเป็นจังหวะ จะใช้กับกล้ามเนื้อใหญ่ เช่น หลัง คอ บ่า ไหล่ เป็นต้น
  • การเหยียบ เป็นเทคนิคที่คนโบราณใช้ แต่อาจเกิดอันตรายได้ง่าย เนื่องจากการเหยียบนั้น หากลงน้ำหนักไม่ค่อยได้แม่นยำ อาจเกิดอันตรายสูง บริเวณที่ไม่ควรเหยียบ คือ กระดูกสันหลัง เพราะเป็นทางเดินของไขสันหลัง

ประโยชน์การนวดแผนไทย

  • ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด น้ำเหลือง
  • ช่วยระบบประสาทให้ทำงานดีขึ้น
  • ช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้
  • ช่วยบำบัดรักษาโรคที่มีอาการปวด ตึง ล้า ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
  • ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของข้อไม่ให้ติดขัด ทั้งยังช่วยให้การทำงานของเนื้อเยื่อต่างๆดีขึ้น
  • ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยที่เกิดจากโรค หรือภาวะผิดปกติ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต
  • ช่วยในเรื่องการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ช่วยส่งเสริมสุขภาพ เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย และจิตใจ และจิตวิญญาณที่ดี

ข้อควรระวังในการนวดแผนไทย

  • ห้ามนวดผู้ที่เป็นโรคติดเชื้อทางผิวหนังทุกชนิด
  • ห้ามนวดผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ห้ามนวดผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
  • ห้ามนวดผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน และโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท
  • ห้ามนวดผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
  • ห้ามนวดผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง
  • ห้ามนวดผู้ที่เป็นโรค HIV
  • ห้ามนวดผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
  • ห้ามนวดผู้ที่มีโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
  • ห้ามนวดบริเวณแผลผ่าตัด
  • ห้ามนวดบวิเวณแผลสด บริเวณการอักเสบ

ที่มา: www.dtam.moph.go.th

เป็นอย่างไรบ้างคะ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ได้บ้างนะคะ

Love and Share…..Beauty Town